19.30 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินดอนเมือง Terminal 2 ชั้น 3 เคาน์เตอร์ 9-10 “สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์”พบกับเจ้าหน้าที่ที่คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวก ณ บริเวณหน้าเคาน์เตอร์
*** หมายเหตุ : เคาน์เตอร์เช็คอินปิดบริการก่อนเวลาเครื่องออก 60 นาที และไม่มีประกาศเตือนผู้โดยสารขึ้นเครื่อง ดังนั้นผู้โดยสาร จำเป็นต้องพร้อม ณ ประตูขึ้นเครื่องก่อนเวลาเครื่องออกอย่างน้อย 45 นาที ***
23.55 น. ออกเดินทางจาก กรุงเทพฯ โดยสายการบิน AIR ASIA X เที่ยวบิน XJ 620
(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 ชั่วโมง … เวลาท้องถิ่นเร็วกว่าประเทศไทย 2 ชั่วโมง)
08.40 น. ถึงสนามบินชิโตเซ่ “เมืองซัปโปโร” ประเทศญี่ปุ่น ถือว่าเป็นเมืองใหญ่อันดับที่ 5 ของญี่ปุ่น และเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การศึกษา และการเมืองการปกครองของเกาะฮอกไกโด … ผ่านพิธีศุลกากรและตรวจคนเข้าเมือง
นำท่านเดินทางสู่ “โนโบริเบทสึ” เมืองที่มีชื่อเสียงด้านบ่อน้ำพุร้อนประจำภูมิภาคฮอกไกโด เพื่อนำท่านชมความแปลกของธรรมชาติที่ “จิโกกุดานิ” หรือ “หุบเขานรก” เป็นหุบเขาที่งดงาม ตั้งอยู่เหนือย่านบ่อน้ำร้อนโนโบริเบทสึ เป็นบ่อโคลนเดือดที่ธรรมชาติได้สร้างสรรค์ขึ้นอุดมไปด้วยแร่กำมะถัน ซึ่งเกิดจากความร้อนใต้พิภพเผาผลาญกำมะถันแล้วพวยพุ่งขึ้นมารวมตัวกันจนเกิดเป็นแอ่ง อิสระให้ท่านได้เดินชม และบันทึกภาพตามอัธยาศัย
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (1)
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ “เมืองฮาโกดาเตะ” เป็นเมืองที่อยู่ทางด้านทิศใต้ของเกาะฮอกไกโดที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดจนได้ชื่อว่าเป็นประตูสู่ฮอกไกโด นอกจากนี้ยังเป็นเมืองที่ผสมผสานกันระหว่างวัฒนธรรมญี่ปุ่นและตะวันตก… เพื่อนำท่านเดินทางสู่ “หอคอยโกเรียวคาคุ” (GORYOKAKU TOWER) หอคอยเก่าที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1964 ในโอกาสฉลองปราสาทโกเรียวคาคุครบรอบ 100 ปี เดิมมีความสูง 60 เมตร ต่อมาได้มีการพัฒนากลายเป็นหอคอยที่ทันสมัย และเปิดบริการครั้งแรกในวันที่ 1 เมษายน 2006 ปัจจุบันหอคอยมีความสูง 107 เมตร ท่านสามารถชมวิวทิวทัศน์อันงดงามของป้อมปราการรูปดาวห้าแฉกสไตล์ตะวันตกแห่งเดียวในญี่ปุ่น ที่สร้างมานานกว่า 150 ปี และ ถือว่าเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของเมืองฮาโกดาเตะ จากหอคอยกระจกใสรอบด้าน 360 องศา … พร้อมชมความงามของซากุระสีชมพูมากมายหลากหลายสายพันธุ์กว่า 1,600 ต้นที่ออกดอกผลิบานล้อมป้อมปราการดาวห้าแฉกแห่งนี้ และเพลิดเพลินกับบรรยากาศของ เมืองท่าที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น (โดยทั่วไปซากุระจะบานประมาณ 1 สัปดาห์ ขึ้นอยู่ตามสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยในแต่ละปี ดังนั้นหากช่วงที่ท่านเดินทางท่องเที่ยว ไม่สามารถชมดอกซากุระได้ ทางบริษัทต้องขออภัยมา ณ ที่นี้)
จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ “ย่านโมโตมาชิ” เพื่อพาท่านเดินชม “อาคารโกดังอิฐแดง” หรือ“Kanemori Red Brick Warehouse” โกดังเก่าริมท่าเรือเมืองฮาโกดาเตะ สร้างตามแบบตะวันตกด้วยอิฐแดง ในปี ค.ศ. 1859 ท่าเรือฮาโกดะเตะเปิดทำการเป็นหนึ่งในท่าเรือค้าขายระหว่างประเทศแห่งแรกของญี่ปุ่น แต่ปัจจุบันโกดังจำนวน 5 หลังถูกดัดแปลงให้กลายเป็นร้านค้า ของที่ระลึก ร้านอาหาร และ ร้านขายของ ที่ระลึก โรงเบียร์ และอื่น ๆ … ด้านที่หันออกทะเลจะเขียนป้ายตัวโต ๆ ว่า BAY จัดเป็นย่านช้อปปิ้งที่ตกแต่ง เอาไว้อย่างสวยงาม น่าเดินเล่นชิลล์ ๆ ให้คุณจะเพลิดเพลินกับการเดินกินลมชมวิวรอบบริเวณนี้ ประกอบกับเพลงที่เปิดทางเสียงตามสาย ให้ได้ยินทั่วเมือง เสริมบรรยากาศให้ฮาโกดาเตะเป็นเมืองที่สวยที่สุดแสนโรแมนติก … ส่วนพื้นที่ด้านหลังโกดังอิฐแดงโดยรอบถูกดัดแปลงให้กลาย เป็นแหล่งช้อปปิ้งในชื่อ “ฮาโกดาเตะ แฟคตอรี่” (Hakodate Factory) หรือ Hakodate Bay Area ในสมัยเมจิอาคารด้านหน้าของห้างสรรพสินค้าเคยเป็นที่ทำการไปรษณีย์ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1911 จากนั้นในปี ค.ศ.1962 ที่ทำการไปรษณีย์จึงย้ายไป … ปัจจุบันได้ถูกดัดแปลงให้เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่มีทั้งร้านทำเครื่องแก้ว กล่องดนตรี ร้านอาหาร โรงเบียร์ ร้านขนมหวาน ร้านขายของที่ระลึก และอื่น ๆ อีกมากมาย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร (2)
นำท่านขึ้นกระเช้าสู่ “จุดชมวิวบนภูเขาฮาโกดาเตะ” 1 ใน 3 ทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่สวยที่สุดด้วยความสูง 334 เมตร … ท่านจะได้สัมผัสกับบรรยาการของเมืองฮาโกดาเตะในยามค่ำคืน ที่มีแสงไฟเรียงรายเปล่งแสงระยิบระยับดั่งแสงของเพชรซึ่งนับว่าเป็นไฮไลท์ของฮาโกดาเตะ (สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม)
ที่พัก : HOTEL MYSTAYS HAKODATE หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางชม “ตลาดเช้าฮาโกดาเตะ” ณ หัวมุมถนนใกล้กับสถานีฮาโกดาเตะ คุณจะพบฮาโกดาเตะ อาสะอิจิ (ตลาดเช้า) อันแสนพลุกพล่านที่คอยยั่วยวนนักท่องเที่ยวให้เข้าไปเลือกซื้อของสด ๆ ชั้นดีจาก ฮาโกดาเตะตลาดเช้าเริ่มเปิดขายแต่เช้าตรู่ตั้งแต่เวลาตีห้า (หกโมงเช้าหากเป็นฤดูหนาว) และปิดเวลาเที่ยง โดยอาหารทะเล ผักผลไม้ และขนมหวานเป็นเพียงส่วนหนึ่งของของกินที่วางขายเท่านั้น ให้ท่านได้เพลิดเพลินไปกับการซื้อของที่ตลาด และอย่าลืมแวะไปดูปูและหอยเป็น ๆ ในตู้ขนาดยักษ์ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ “อุทยานแห่งชาติโอนุมะ” ให้ท่านได้สัมผัสบรรยากาศที่เต็มไปด้วย “ดอกซากุระ” ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ถึงฤดูกาลที่แย้มบานสะพรั่งเป็นสีชมพูอยู่ทั่วบริเวณ นับว่าเป็นจุดชมดอกซากุระที่สวยงามอีกหนึ่งจุด (ท่านอาจจะได้เห็นบรรยากาศการชมดอกไม้สไตล์ญี่ปุ่นที่จะมากันเป็นครอบครัว / หมู่คณะ) อุทยานแห่งชาติโอนุมะเป็นสวรรค์ของคนรักธรรมชาติซึ่งอยู่ห่างจากฮาโกดาเตะเพียง 20 นาทีเท่านั้น หากเดินทางด้วยรถไฟด่วนพิเศษ ภูเขาโคมากะทาเคะ ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางทะเลสาบสามแห่งที่เต็มไปด้วยเกาะ ให้ท่านเก็บภาพความประทับใจอิสระตามอัธยาศัย (โดยทั่วไปซากุระจะบานประมาณ 1 สัปดาห์ ขึ้นอยู่ตามสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยในแต่ละปี ดังนั้นหากช่วงที่ท่านเดินทางท่องเที่ยว อาจจะไม่สามารถชมดอกซากุระได้ ทางบริษัทต้องขออภัยมา ณ ที่นี่)
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (4)
บ่าย หลังอาหารกลางวัน นำท่านเดินทางสู่ “ทะเลสาบโทยะ” หรือ “โทโยโกะ” หนึ่งในทะเลสาบที่มีชื่อเสียงโด่งดังของญี่ปุ่น เพื่อนำท่านเปลี่ยนบรรยากาศเป็นการ “นั่งกระเช้าไฟฟ้า” สู่ “ภูเขาไฟอุสึ” (Mt. Usuzan) (ในกรณีที่อากาศเอื้ออำนวย) ที่ได้ชื่อว่าเป็นภูเขาไฟที่ระเบิดบ่อยที่สุดในญี่ปุ่นในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา และเป็นจุดศูนย์กลางที่ทำให้เกิดทะเลสาบโทยะและพบว่าภูเขาไฟลูกนี้ จะมีการปะทุขึ้นมาเป็นระยะทุก 20-50 ปีทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของพื้นที่แถบนี้อยู่อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเกิดการระเบิดครั้งใหญ่ในปี พ.ศ. 2486 ทำให้เกิด “ภูเขาไฟโชวะชินซัง” (Mt. Showa shinzan) ปัจจุบันภูเขาลูกนี้หยุดเติบโตแล้วแต่ยังมีควันขาวปะทุออกมาตามรอยแยกแตกของพื้นหินบนยอดเขาซึ่งมีความร้อนสูงมาก เป็นยอดเขาที่หิมะไม่อาจปกคลุมได้ในฤดูหนาว … อิสระให้ท่านได้ชื่นชมกับความสวยงามของธรรมชาติและวิวทิวทัศน์ในอีกรูปแบบหนึ่ง จากนั้นนำท่านชมแหล่งเพาะพันธุ์หมีสีน้ำตาล “สวนหมีภูเขาไฟโชวะชินซัน” (Showa-Shinzan Bear Park) ตั้งอยู่ใกล้กับ สถานีกระเช้าภูเขาไฟอุสึท่านสามารถเยี่ยมชมลูกหมีสีน้ำตาลได้อย่างใกล้ชิดผ่านกระจกใส และมีหมีโตเต็มวัยที่ไม่ดุร้าย ที่จะมาโชว์ลีลาอ้อนขออาหารจากนักท่องเที่ยว เป็นภาพที่น่ารักน่าเอ็นดูทีเดียว หากต้องการใกล้ชิดกับเหล่าหมีก็สามารถเข้าไปยังห้องสังเกตการณ์พิเศษ “กรงมนุษย์” ซึ่งจะมองเห็นหมีสีน้ำตาลเดินผ่านไปมา ท่านจะได้ยินเสียงและได้กลิ่นของหมีผ่านรูระบายอากาศเล็กๆนอกจากนี้ยังมีร้านขายขนมปัง และแอปเปิ้ล กับนักท่องเที่ยวได้ป้อนอาหารหมีอีกด้วย …อิสระให้ท่านได้เพลิดเพลินกับความน่ารักฉลาดแสนรู้ของของเหล่าหมี สีน้ำตาลพันธุ์หมีที่หาได้ยากในปัจจุบัน ซึ่งจะพบเฉพาะในเกาะฮอกไกโด, เกาะซาคาริน และหมู่เกาะคูรินเท่านั้น … ชาวไอนุเชื่อกันว่าหมีสีน้ำตาลนี้ถือเป็นสัตว์เทพเจ้าของพวกเขาอีกด้วยพร้อมบันทึกภาพความน่ารักตามอัธยาศัย
ค่ำ รับประทานอาหารค่ำ ณ ห้องอาหารของโรงแรม (5)พร้อมเสิร์ฟท่านด้วยเมนูพิเศษ “บุฟเฟ่ต์ปูยักษ์” ให้ท่านได้ลิ้มรสปูน้ำเย็นแห่ง “เกาะฮอกไกโด” ซึ่งได้รับการกล่าวขานจากนักโภชนาการญี่ปุ่นว่าเป็นปูน้ำเย็นที่เนื้อมีรสชาติอร่อยที่สุดและมีเนื้อที่นุ่มน่ารับประทานให้ท่านได้อิ่มอร่อย
“แบบไม่อั้น”
ที่พัก : HOTEL HANABI หรือเทียบเท่า
^_^ หลังอาหารไม่ควรพลาดประสบการณ์ “การอาบน้ำแร่ธรรมชาติ”เพื่อสุขภาพ/ “โอนเซ็น” (Onsen) น้ำแร่สไตล์ญี่ปุ่นให้ท่านได้พักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม ซึ่งชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าน้ำแร่ธรรมชาตินี้มีส่วนช่วยเรื่อง โรคภัยไข้เจ็บและผิวพรรณเปล่งปลั่ง
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านออกเดินทางสู่ “เมืองโอตารุ” ศูนย์กลางการค้าทางน้ำที่โดดเด่นที่สุดในเกาะฮอกไกโด ระหว่างทางท่านจะได้เพลินตากับทัศนียภาพอันงามตาของธรรมชาติและภาพวิถีชีวิตความเป็นอยู่อย่างเรียบง่ายของญี่ปุ่น …ถึงเมืองโอตารุ” เมืองที่ท่านจะได้ซึมซับกับภาพบรรยากาศและกลิ่นอายประหนึ่งว่าเดินอยู่ในเมืองเวนิส นำท่านแวะชม “คลองโอตารุ” ที่มีความยาว 1,140 เมตร และเชื่อมต่อกับอ่าวโอตารุ ซึ่งในสมัยก่อนประมาณ ค.ศ. 1920 ที่ยุคอุตสาหกรรมการขนส่งทางเรือเฟื่องฟู คลองแห่งนี้ได้ถูกใช้เป็นเส้นทางในการขนส่งสินค้า จากคลังสินค้าในตัวเมืองโอตารุออกไปยังท่าเรือบริเวณปากอ่าวให้ท่านเดินเล่น พร้อมถ่ายรูปตามอัธยาศัยกับอาคารเก่าแก่ริมคลองและวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม แล้วนำท่านเดินสู่ “ถนนซาไกมาจิ” (Sakaimachi Street) ย่านช้อปปิ้งสำคัญของเมืองตั้งอยู่ไม่ไกลจากคลองโคตารุ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ “ร้านเครื่องแก้ว” “พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี” และ “นาฬิกาไอน้ำโบราณ” นอกจากนี้ตลอดทั้งสองข้างทางของถนน ซาไกมาจิ ยังเต็มไปด้วยร้านค้าขายขนมแสนอร่อยนานาชนิด อาทิ ช็อกโกแล็ต Le TAO ที่มีขายเฉพาะที่โอตารุ เค้ก และขนมอันเลื่องชื่อต่างๆมากมาย ของที่ระลึก และร้านอาหาร ร้านกาแฟ ให้ท่านเดินชมได้ตามอัธยาศัย … จากนั้นนำท่านถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกับ “นาฬิกาไอน้ำโบราณ” สไตล์อังกฤษ ที่เหลืออยู่เพียง 2 เรือนบนโลกเท่านั้น ซึ่งเป็นของขวัญจาก เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนนาดามอบให้กับเมืองโอตารุ โดยนาฬิกาจะมีเสียงดนตรีดังขึ้นทุก ๆ 15 นาที และจะพ่นไอน้ำออกมาทุก ๆ ชั่วโมง เหมือนกับนาฬิกาไอน้ำอีกเรือนที่ลอนดอน … อิสระให้ท่านเดินชมได้ ตามอัธยาศัย … พร้อมนำท่านชื่นชมความงดงามของศิลปะที่ “พิพิธภัณฑ์เครื่องแก้วและกล่องดนตรี” ท่านจะได้ตื่นตากับเครื่องประดับ และตกแต่งที่ทำมาจากแก้วมากมายหลากหลายรูปแบบที่งดงามยิ่งนัก หรือจะเลือกชม “กล่องดนตรี” รูปแบบต่าง ๆ ที่บรรเลงเพลงอันแสนไพเราะพร้อมทั้งชม “การสาธิต” การผลิตเครื่องแก้วด้วยช่างผู้ชำนาญการ … อิสระให้ท่านได้ “เลือกซื้อเลือกชม” สินค้าที่ผลิตจากเครื่องแก้วต่างๆ ติดไม้ติดมือฝากคนทางบ้าน
เที่ยง รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (7)
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ “โรงงานช็อกโกแล็ต” สินค้าขึ้นชื่ออีกอย่างของฮอกไกโด เนื่องจากเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ “โคนม” คุณภาพเยี่ยมมากมายทั่วทั้งเกาะสภาพภูมิอากาศและความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติทำให้ “ช็อกโกแล็ต” มีรสชาติดีเยี่ยมกลมกล่อมไม่แพ้ช็อกโกเแล็ตจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์เลยก็ว่าได้ … ภายในโรงงานแห่งนี้มีการจัดแสดงอุปกรณ์การผลิตตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม แบบจำลองโรงงาน ท่านจะได้ชมขั้นตอน กระบวนการการผลิต และสามารถเลือกชมและเลือกซื้อสินค้าได้อย่างจุใจ สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่เมือง “ซัปโปโร” เมืองหลวงของเกาะฮอกไกโด ศูนย์กลางความเจริญอันดับ 5 ของญี่ปุ่น ผังเมืองซัปโปโรมีลักษณะคล้ายตารางหมากรุก ซึ่งแตกต่างจากบรรดาหมู่บ้านและเมืองทั่วไปในญี่ปุ่นซึ่งได้รับคำแนะนำาและพัฒนาจากผู้เชี่ยวชาญชาวอเมริกัน ดังนั้นผังเมืองจึงถูกออกแบบเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าตามพื้นฐานการวางผังเมืองของอเมริกา จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ “อาคารที่ทำการรัฐบาลเก่า” สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1888 สถาปัตยกรรมของอาคารนี้ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งเมืองซัปโปโร ทำให้นักท่องเที่ยวท้องถิ่นและต่างชาติรู้จักกันอย่างแพร่หลายสไตล์การสร้างของโดมแปดเหลี่ยม นำมาจากที่ทำการรัฐแมสซาซูเสทท์ในประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ที่ออกแบบอาคารนี้เป็นสถาปนิกท้องถิ่น และสร้างอาคารนี้โดยใช้วัสดุภายในประเทศ อาคารนี้เคยเป็นอาคารที่ใหญ่และสูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่นและเป็นสัญลักษณ์ของรัฐบาลเมจิ แต่ต่อมาถูกไฟไหม้ทำให้ต้องสร้างขึ้นมาใหม่ ในปี ค.ศ. 1911 ปัจจุบันถูกอนุรักษ์ไว้ให้เป็นสมบัติที่มีความสำคัญทางด้านวัฒนธรรม และสำหรับจัดงานเลี้ยงต้อนรับบุคคลที่สำคัญทางการเมือง ของรัฐบาลญี่ปุ่น … นำท่านผ่านชม “หอนาฬิกาโบราณ” สัญลักษณ์คู่เมืองซัปโปโร ซึ่ง สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1878 ปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังถือว่าเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมอันมีค่าของชาวญี่ปุ่น ซึ่งยังคงบอกเวลาอย่างเที่ยงตรงมานานนับ 100 ปี ทั้งยังได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นสมบัติล้ำค่าทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่นอีกด้วย จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ “ทานุกิ โคจิ” ย่านช้อปปิ้ง ณ ถนนคนเดินในร่ม อันเก่าแก่กว่า 130 ปี ของเมืองซัปโปโร ที่มีความยาวกว่า 900 เมตร กับร้านค้ามากมายนับ 200 ร้าน ที่ให้ท่านเดินเลือกซื้อสินค้าต่าง ๆ อย่างจุใจ อาทิเช่น ร้านสินค้า 98 เยน ร้านรองเท้าและกระเป๋าราคาถูกที่มีให้เลือกหลากหลายแบบที่เริ่มต้นราคาตั้งแต่ 1050 เยน ร้านขายเครื่องสำอางร้านขายอุปกรณ์เกี่ยวกับสุนัข ร้านขายผลไม้พื้นเมืองร้านเกมส์ ร้านขายเสื้อผ้า ร้านอาหาร ฯลฯ จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ “สถานีรถไฟซัปโปโร” สวรรค์แห่งนักช้อปโดยมีห้างสรรพสินค้ามากมาย เช่น พาซิโอ ไดมารุและอาคาร ESTA เป็นต้น ในอาคาร ESTA มีศูนย์อาหารสไต์ล์ธีมพาร์ค ‘ราเม็ง รีพับลิค ซัปโปโร’ ท่านจะสามารถลิ้มรสราเมงชื่อดังจากทั่วฮอกไกโดได้ที่นี้ นอกจากนี้ยังมีตึกของ BIC CAMERA ซึ่งเป็นสถานที่แห่งการบูชาเครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์ นอกจากนี้ยังมี UNIQLO ขนาดใหญ่และร้านขายเสื้อผ้ามากมายที่อยู่เหนืออาคาร 7 ชั้นของ BIC CAMERA และ ศูนย์การค้าใต้ดิน ‘เอเปีย’ ที่มีโดมกระจกเชื่อมจากใต้ดินขึ้นมายังพื้นดินเป็นจุดสังเกต มีร้านขายของฝากจากฮอกไกโดและร้านขนมมันจูเก่าแก่ก็มาเปิดสาขาอยู่ด้วย
ค่ำ อิสระรับประทานอาหารค่ำตามอัธยาศัย (ไม่รวมค่าบริการ)
ที่พัก : SAPPORO TOKYU REI HOTEL หรือเทียบเท่า
เช้า รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
(กรุณาตรวจสอบสัมภาระให้เรียบร้อย เพื่อเตรียมเดินทางไปสนามบิน)
สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่ “สนามบินชิโตเซ่”
09.55 น. ออกเดินทางจาก สนามบินชิโตเซ่ โดยสายการบิน AIR ASIA X เที่ยวบิน XJ 621
15.10 น. ถึงสนามบินดอนเมือง กรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ พร้อมความประทับใจมิรู้ลืม
หมายเหตุ : รายการอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม เนื่องจากสภาวะอากาศ, การเมือง, สายการบิน เป็นต้น
*** ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์เฉพาะลูกค้าที่มีวัตถุประสงค์เพื่อท่องเที่ยวหรือสำรวจเส้นทางเท่านั้น หากท่านถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของทางประเทศไทยและญี่ปุ่นปฏิเสธการเข้า-ออกเมือง ถือเป็นเหตุผลที่อยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของทางบริษัท ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการที่จะคืนค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้นแก่ท่าน ***
***หนังสือเดินทางต้องเหลืออายุการใช้งานได้ไม่น้อยกว่า 6 เดือน***
อัตราค่าบริการ | ราคาต่อท่าน |
ผู้ใหญ่ ท่านละ | 38,900.- บาท |
เด็กทารกอายุไม่เกิน 2 ปี (Infant) ท่านละ | 9,000.- บาท |
พักเดี่ยวเพิ่ม ท่านละ | 6,000.- บาท |
มีตั๋วแล้วลด ท่านละ | 10,000.- บาท |
***ไม่มีราคาเด็ก*** |
อัตราค่าบริการนี้รวม
อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
เงื่อนไขการสำรองที่นั่ง / ชำระเงิน / การยกเลิก
หมายเหตุ
…โปรดอ่านข้อความให้ถี่ถ้วนก่อนการจองทัวร์ทุกครั้งเพื่อประโยชน์แก่ตัวท่านเอง…